จากสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด 19 แพร่ระบาดอย่างหนัก ทำให้ประชาชนหลายคนต้องพบกับปัญหาหลายด้าน ทั้งด้านสุขภาพ การใช้ชีวิตความเป็นอยู่ หรือแม้แต่การถูดลดรายได้ ทำให้ประสบกับรายรับที่ไม่เพียงพอกับรายจ่าย หลายคนก็มีวิธีการแก้ปัญหาต่าง ๆ กันไป ไม่ว่าจะเป็นกลับไปอยู่ภูมิลำเนาเดิมเพื่อลดค่าเช่าที่อยู่อาศัย ลดค่าอาหาร หรือแก้ปัญหาด้วยวิธีการรับสินค้ามาขายออนไลน์ เช่น หน้ากากผ้าอนามัย เพื่อเป็นรายได้มาจุนเจือครอบครัว รวมถึงใช่จ่ายในส่วนที่จำเป็น
ธุรกิจที่กำลังมีความนิยม ในช่วงตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2563 ที่เกิดวิกฤตการณ์ เชื้อไวรัส โควิด 19 แพร่ระบาดใน ประเทศไทย คือ การขายหน้ากากผ้าอนามัย เพราะมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ในการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คน ถือได้ว่าเป็นตัวช่วยหลักในการป้องกันเชื้อไวรัส และป้องกันฝุ่น PM 2.5 บวกกับปัญหาราคาหน้ากากอนามัยที่ค่อนข้างสูงขึ้น อย่างเห็นได้ชัด คนส่วนใหญ่จึงหันมาเลือกที่จะประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยการใช้หน้ากากผ้าอนามัย เพราะสามารถนำมาซัก และใช้ได้ใหม่ในวันถัดไป
แบรนด์เสื้อผ้าใหญ่ ๆ หลายแบรนด์เริ่มมีการผลิตสินค้าในลักษณะที่มีเอกลักษณ์ของแบรนด์ตัวเองออกมาจำหน่ายมากขึ้น พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เลือกที่จะรับสินค้าจากโรงงานผลิตมาส่งต่อ เป็นการเพิ่มรายได้ในช่วงของเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ แม้สินค้าในบางครั้งผู้ซื้อจะต้องทำการสั่งจองล่วงหน้าและรอรับสินค้า 1-2 สัปดาห์ แต่ผู้ซื้อก็ยังยินดีพี่จะรอ หากสินค้ามีราคาถูกและสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง เราสามารถพบเห็นการขายสินค้าประเภทนี้ได้ทั่วไป ทั้งทางออนไลน์และร้านสะดวกซื้อ ในราคาเริ่มต้นที่ อันละ 25 บาท
การเลือก “หน้ากากผ้าอนามัย” ที่ป้องกันเชื้อไวรัส โควิด 19
แบบป้องกันเชื้อไวรัสโควิด 19 ได้
- เลือกหน้ากากผ้าฝ้ายมัสลินหรือผ้ายืดสาลู 2 ชั้นขึ้นไป จะสามารถกันละอองน้ำได้ดี เส้นใยผ้ามีความถี่สามารถป้องกันอนุภาคเล็ก ๆ ได้
- หน้ากาก Thammask โครงสร้างของผ้ามี คุณสมบัติกันน้ำ และมีเทคโนโลยีสะท้อนน้ำเพื่อต่อต้านโมเลกุลของน้ำที่จะแทรกเข้าไปในผ้า
- หน้ากากผ้าเจอร์ซี่นิต มีโครงสร้างเป็นไหมถัก เนื้อไหมมีความยืดหยุ่น น้ำหนักเบา และสามารถระบายอากาศได้ดี
แบบไม่ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด 19
- หน้ากากผ้าที่มีแค่ชั้นเดียวและไม่มีตัวกรอง มีความบาง เบา เชื้อไวรัสที่มีอนุภาคเล็กจะสามารถผ่านเข้าไปยังลมหายใจได้
- หน้ากากฟองน้ำ สามารถป้องกันละอองจากการไอ จาม และฝุ่นควันได้ แต่ไม่สามารถป้องกันเชื้อไวรัสที่มีอนุภาคเล็กได้
ลดค่าใช้จ่าย ด้วยการทำ “หน้ากากผ้าอนามัย” ใช้เอง
การทำหน้ากากผ้าอนามัยใช้เองถือเป็นการประหยัดทั้งของตนเองและคนในครอบครัว ที่สำคัญ วิธีการทำก็ไม่ได้มีความยุ่งยาก และหากว่าทำได้มากพอจนเหลือจากความต้องการในครอบครัว สามารถนำไปแบ่งปันให้ผู้อื่นต่อได้
อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำ
ประกอบด้วย ผ้าฝ้ายมัสลิน ซึ่งเป็นชนิดผ้าที่หาซื้อได้ง่าย ๆ ทั่วไปตามร้านขายผ้า ยางยืด กรรไกร เข็มด้าย เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อตัดแต่งและเย็บหน้ากากผ้า
ขั้นตอนการทำหน้ากากผ้าอนามัยแบบสี่เหลี่ยม 3 จีบ
- นำผ้าฝ้ายมัสลินมาตัดให้เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาด 15×15 เซนติเมตร 2-3 ชิ้น
- นำผ้าที่ตัดเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสเรียบร้อยแล้วมาวางซ้อนกัน แล้วเย็บติดกัน 3 ชิ้นขอบด้านบนและขอบด้านล่าง
- จับจีบผ้าโดยเริ่มจากด้านบนให้เป็นชั้น 2-3 เซนติเมตร ต่อชั้น
- จากนั้นเย็บเป็นเส้นตรง เว้นริมขอบประมาณ 1 เซนติเมตร โดยเย็บทั้งฝั่งซ้ายและขวา
- ขอบด้านซ้าย พับเข้าด้านใน แล้วเย็บให้ยางยืดสามารถสอดเข้าไปได้ เพื่อทำเป็นห่วงเกี่ยวหู และเมื่อยางยืดเสื่อมสภาพ สามารถที่จะตัดและเปลี่ยนยางใหม่ได้โดยสอดเข้าทางช่องทางเดิม
- ทำเช่นเดียวกันในขอบด้านขวาเพื่อใส่ยางยืด
เพียงเท่านี้ เราก็จะได้หน้ากากผ้าอนามัยที่ป้องกันเชื้อไวรัส โควิด 19ได้ ในราคาที่ประหยัด ผ้า 1 ผืนที่เราซื้อมาสามารถทำหน้ากากได้เป็น 10 ชิ้น และแบ่งให้คนในครอบครัวใช้ โดยสร้างตำหนิ ของแต่ละคน เช่น อาจจะปัก รูปดาว รูปหัวใจ รูปดอกไม้ หรืออื่น ๆ เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์เฉพาะตัว จะได้ไม่เกิดการสับสน เนื่องจากไม่ควรใช้ร่วมกัน นอกจากนี้ ยังสามารถทำเพื่อแบ่งปันให้คนใกล้เคียง เป็นการช่วยเหลือสังคมในกำลังที่เราพอจะทำได้
ทั้งนี้ เราทุกคนควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมาก หรือผู้คนแออัด หากจำเป็นต้องใช้บริการรถประจำทางสาธารณะ ควรป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากผ้าอนามัยและถุงมือ เพื่อป้องกันการจับ บริเวณเสาหรือเบาะนั่ง เมื่อกลับถึงบ้านควรรีบอาบน้ำ ล้างมือให้สะอาด แต่ถ้าไม่มีความจำเป็นควรอยู่ในบ้าน เป็นการหยุดรับเชื้อไม่ให้มาสู่คนในครอบครัวของเรา และจะได้ไม่เป็น ภาระของสังคม หากเราทุกคนช่วยกันเชื้อไวรัสก็จะไม่สามารถแพร่กระจายได้ และทำให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นฟูได้อีกครั้ง