หน้ากากอนามัยแบบนี้กันไวรัสหรือฝุ่น? เช็กให้ชัวร์ก่อนใช้

หน้ากากอนามัยกลายเป็นสิ่งที่ต้องสวมใส่ตลอดเวลาที่ออกไปนอกบ้าน แม้กระทั่งเดินไปซื้อของหน้าปากซอยก็ยังต้องสวมใส่ไป เพื่อป้องกันไม่ให้ละอองเชื้อโรคและอนุภาคฝุ่นที่ลอยอยู่ในอากาศเข้าสู่ร่างกาย จนอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการของโรคบางอย่างได้ แล้วด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ทั้งจากเชื้อไวรัสโควิด-19 และฝุ่น PM 2.5 การเลือกสวมหน้ากากให้ถูกประเภทจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรใส่ใจให้มากขึ้น โดยถ้าใช้เกณฑ์แบ่งประเภทเป็นสิ่งที่หน้ากากสามารถป้องกันได้ ก็จะแบ่งได้เป็น 2 ประเภทด้วยกัน

หน้ากากอนามัยที่ป้องกันเชื้อโรคและฝุ่นขนาดใหญ่ได้

1.หน้ากากที่ใช้ในทางการแพทย์
เป็นหน้ากากที่เรามักจะเห็นบุคลากรทางการแพทย์สวมใส่อยู่ตลอด ส่วนใหญ่จะมีด้านหนึ่งที่เป็นสีเขียวหรือฟ้าและอีกด้านเป็นสีขาว สามารถกรองเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจได้ดีเลยทีเดียว นอกจากนั้นยังสามารถกรองฝุ่นที่มีขนาดอนุภาคใหญ่กว่า 3 ไมครอนขึ้นไปได้อีกด้วย

2.หน้ากากคาร์บอน
มีลักษณะคล้ายกับหน้ากากอนามัยที่ใช้ในทางการแพทย์ แต่จะมีสีเทาเข้มหรือสีดำของคาร์บอน ทำให้เราสามารถแยกออกชนิดของหน้ากากได้ด้วยสี สามารถป้องกันเชื้อโรคและฝุ่นละอองได้เหมือนกับหน้ากากที่ใช้ในทางการแพทย์ทุกอย่าง นอกจากนั้นยังช่วยดูดซับกลิ่นรบกวนได้อีกด้วย

3.หน้ากาก N95
เป็นหน้ากากที่สามารถกรองฝุ่นละออง PM2.5 หรือสิ่งเจือปนในอากาศที่มีขนาดเล็ก ๆ ได้ดี ซึ่งรวมถึงเชื้อโรคบางสายพันธุ์ที่มีขนาดเล็กมาก จนหน้ากากที่ใช้ในทางการแพทย์ไม่สามารถกรองได้ แต่ข้อเสียของหน้ากากอนามัยแบบนี้คือจะทำให้เรารู้สึกอึดอัดและหายใจไม่สะดวก

หน้ากากอนามัยที่ป้องกันเฉพาะฝุ่น

1.หน้ากากผ้า
เป็นหน้ากากที่ผลิตจากผ้าชนิดต่าง ๆ สามารถกรองฝุ่นและเกสรดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่ได้ โดยต้องมีจำนวน 3 ชั้นขึ้นไป จึงจะมีประสิทธิภาพดีที่สุด สวมใส่สบาย หายใจได้สะดวก แต่ข้อเสียก็คือตัวหน้ากากไม่ได้แนบไปกับใบหน้า ทำให้มีช่องว่างที่ฝุ่นและสิ่งเจือปนในอากาศสามารถลอดผ่านเข้าไปได้

2.หน้ากากฟองน้ำ
เป็นหน้ากากอนามัยที่มีรูปทรงสวยงาม ขนาดพอดีกับใบหน้า มีความยืดหยุ่นพอสมควร กรองได้แต่ฝุ่นละอองขนาดใหญ่เท่านั้น และยังคงมีช่องว่างบริเวณสันจมูกอยู่ โอกาสที่เชื้อโรคขนาดเล็กจะสามารถลอดผ่านเข้าไปจึงค่อนข้างสูงกว่าหน้ากากประเภทอื่น

หน้ากากอนามัยแต่ละประเภทจะมีความสามารถในการกรองฝุ่นละอองและเชื้อโรคที่แตกต่างกัน ดังนั้น ก่อนออกจากบ้านในแต่ละวัน ควรพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนว่ากิจกรรมที่เราจะทำในวันนี้ มีความเสี่ยงมากหรือน้อย จะได้เลือกสวมหน้ากากได้เหมาะสม เป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการป้องกันตนเอง และยังสามารถป้องกันผู้อื่นไม่ให้ได้รับผลกระทบจากเราได้ในเวลาเดียวกันอีกด้วย