อาการไอและจามนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนล้วนถูกสอนให้ทำมาตั้งแต่เด็ก เพื่อลดโอกาสการแพร่เชื้อโรคที่ติดมากับละอองน้ำลายหรือเมือกจากโพรงจมูก อีกทั้งการปิดปากยังถือเป็นมารยาทที่พึงกระทำในสังคม โดยทั่วไปหากเราใส่หน้ากากอนามัยขณะไอหรือจามจะสามารถป้องกันการแพร่เชื้อโรคได้ แต่เมื่อไม่มีหน้ากากอนามัย การปิดปากด้วยวิธีการที่ถูกต้องจึงมีความจำเป็นอย่างมาก
ข้อบกพร่องของวิธีการปิดปากโดยใช้ “มือ” พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง
ถึงแม้ว่าการใช้มือปิดปากจะสามารถป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคไม่ให้ถูกพ่นกระจายไปทั่วทุกที่ แต่มันกลับไม่ใช่วิธีที่ดีเลย เพราะเชื้อโรคจากการไอและจามจะมาติดอยู่ที่มือของเราแทน เมื่อใช้มือสัมผัสสิ่งต่าง ๆ หลังการไอและจามก็จะทำให้สิ่งของนั้น ๆ มีเชื้อโรคติดไปด้วย เพราะเชื้อโรคยังติดอยู่ที่มือ ทำให้เราแพร่เชื้อผ่านการสัมผัสไปโดยไม่รู้ตัว
สำหรับใครที่เผลอใช้มือปิดปากเมื่อมีอาการไอและจาม ควรล้างมือด้วยสบู่และทำความสะอาดมือให้ทั่วถึง เพื่อกำจัดเชื้อโรคก่อนที่จะมีการสัมผัสสิ่งของต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน
วิธีการปิดปากที่ถูกต้องเมื่อไม่มีหน้ากากอนามัยเพื่อลดการแพร่เชื้อ
1.วิธีการปิดปากเมื่อไอ จาม ด้วย “ทิชชู / กระดาษชำระ”
ถ้าเราเกิดเป็นภูมิแพ้ เป็นหวัด มีอาการป่วย หรือแม้แต่ติดเชื้อ โควิด-19 เราควรพกทิชชูหรือกระดาษชำระไว้ใกล้ตัว นอกจากจะเป็นการทำเพื่อตัวเองแล้ว ยังเป็นการป้องกันเพื่อคนรอบข้างอีกด้วย
เมื่อมีการไอ จาม ให้นำกระดาษทิชชู หรือกระดาษชำระมาปิดปากและจมูกเอาไว้ เพื่อให้ละอองฝอยกระเด็นมาติดที่ทิชชู จากนั้นควรนำไปทิ้งถังขยะที่ปิดมิดชิด
2.วิธีการปิดปากที่ถูกต้องโดยใช้ “ข้อพับแขน/ต้นแขน”
ในกรณีที่เราไม่มีแม้แต่กระดาษทิชชูหรือกระดาษชำระอยู่ใกล้ตัว วิธีการปิดปากที่ดีที่สุดคือ การใช้ข้อพับแขนของเราในการปิดปากและจมูก เพราะจะช่วยป้องกันการแพร่เชื้อผ่านการกระจายทางอากาศได้ และเชื้อโรคจะมาอยู่ที่ข้อพับแขนของเราแทน ซึ่งบริเวณข้อพับแขนเป็นบริเวณที่มีการสัมผัสกับสิ่งอื่น ๆ น้อยที่สุด จึงทำให้สามารถลดการแพร่เชื้อผ่านการสัมผัสได้
ถึงแม้เรื่องวิธีการปิดปากที่ถูกต้องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่จริง ๆ แล้วกลับมีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดอย่างเชื้อโควิด-19 ในปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตามวิธีการป้องกันการแพร่เชื้อที่ดีกว่าก็ยังคงเป็นการใส่หน้ากากอนามัยที่ได้รับมาตรฐานในกรณีที่ต้องออกไปสถานที่ต่าง ๆ