ตลอดเวลาของช่วงการผ่อนปรนระยะที่ 2 หรือคลายล็อกเฟส 2 ที่ผ่านมา ศบค. หรือศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้เปิดบริการให้ร้านค้าและกิจการต่าง ๆ เข้ามาลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์มไทยชนะเพื่อขอรับ QR Code ซึ่งเมื่อลูกค้าและผู้เข้ามาใช้บริการในร้านนั้นได้สแกนเข้าไปแล้ว ข้อมูลก็จะถูกส่งไปให้หน่วยงานเพื่อนำไปใช้ในการติดตามผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 จากกลุ่มลูกค้าที่ได้เข้ามาใช้บริการในร้านนั้น ๆ หลากหลายเสียงทั้งดีร้ายจากกระแสตอบรับผู้เข้าใช้ จึงนำมาซึ่งบทสรุปและการพัฒนาครั้งใหม่ต่าง ๆ ของไทยชนะที่ได้มีการถูกปรับให้ดียิ่งขึ้น ว่าแต่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะเข้ามาไขข้อสงสัยต่าง ๆ ของผู้คนได้หรือไม่นั้น คงขึ้นอยู่กับความสามารถในการตอบประเด็นถกเถียงดังต่อไปนี้
ไทยชนะไม่ได้มีเอาไว้เพื่อคอยติดตามชีวิตประจำวันของคุณ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าประเด็นที่ถูกพูดถึงและถกเถียงมากที่สุดของ ไทยชนะ ในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นก็คือ ประเด็นเรื่องของความปลอดภัยในการนำข้อมูลของประชาชนไปใช้ ซึ่งข้อมูลตรงนี้ส่วนใหญ่แล้วจัดว่าเป็นข้อมูลส่วนตัวที่ถึงแม้ก่อนเข้าใช้งานนั้น ผู้ใช้งานต่างได้ทำการตกลงและยินยอมให้สามารถเข้าถึงข้อมูลตรงนี้ของตนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่พวกเขาก็ยังมีความวิตกกังวลอยู่ เพราะว่าการลงทะเบียนตามมาตราการไทยชนะนั้น ผู้ใช้ยังคงมีความรู้สึกว่าการลงทะเบียนเข้าใช้เป็นเรื่องของความจำเป็นมากกว่าการยินยอมที่สมัครใจเข้าใช้ระบบ ซึ่งตรงนี้ ศบค.ก็ได้ออกมาเคลียร์ถึงประเด็นปัญหานี้ว่า ไทยชนะไม่ได้มีเอาไว้เพื่อคอยติดตามชีวิตประจำวันของคุณต่าง ๆ อย่างที่หลายต่อหลายคนเข้าใจและเป็นกังวลกัน เพราะจุดประสงค์ที่ไทยชนะนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้นั้นก็เพื่อที่จะตรวจสอบว่าร้านค้าและกิจการต่าง ๆ นั้นได้ปฏิบัติตามมาตราของกรมควบคุมหรือไม่ และดูว่าความหนาแน่นของประชากรตามจุดเสี่ยงต่อการติดเชื้อแพร่ระบาดมีมากน้อยเพียงใด เพื่อให้สามารถแจ้งเตือนกับประชาชนได้ทันทียามที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อในสถานที่นั้น ๆ นอกจากนี้เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้มากขึ้น “แอปไทยชนะ” เองก็ได้ทำการออกฟังก์ชันใหม่ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าใช้สามารถกำหนดขอบเขตในการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของตนเองได้อย่างเช่น ถ้าหากผู้เข้าใช้ไม่สะดวกที่จะให้เข้าถึงข้อมูลตำแหน่งที่อยู่ของตน พวกเขาก็สามารถเลือกที่จะปิดระบบ GPS ได้ระหว่างที่เปิดเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน ล่าสุดผู้ใช้เองก็สามารถเลือกที่จะปิดการเข้าถึง Photo storage ได้อีกด้วย
เช็คอินแต่ลืมเช็คเอาท์จะไม่ใช่ปัญหาการใช้ไทยชนะอีกต่อไป
ถ้าหากคุณเป็นหนึ่งในผู้เข้าใช้งานของไทยชนะแล้ว คุณคงจะรู้ดีอยู่แล้วว่าการตรวจสอบผู้คนก่อนเข้ามาใช้บริการในร้านและกิจการต่าง ๆ นั้นจะไม่ยุ่งยากเท่ากับการดูแลให้ทุกคนที่ได้ย่างท้าวเข้ามาในตอนต้นนั้นลงชื่อเช็คเอาท์ออกกันมาได้อย่างครบถ้วน ก่อนหน้านี้หน่วยงานก็ได้คิดวิธีรับมือต่าง ๆ ในกรณีที่ผู้ใช้งานไม่สามารถลงทะเบียนได้ตามรูปแบบปกติ ไม่ว่าจะเป็นการจัดให้มีการเซ็นชื่อลงทะเบียนบนกระดาษแทนสำหรับผู้ที่ไม่มีความพร้อมในเรื่องของอุปกรณ์ หรือว่าจะเป็นการจัดเตรียม QR Code พร้อมสแกนให้กับผู้เข้าใช้งาน ครั้งนี้นอกจากไทยชนะจะกลับมาอีกครั้งในรูปแบบของแอปพลิเคชันที่สามารถใช้งานได้สะดวกมากขึ้น การเช็คเอาท์ย้อนหลังก็ยังเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันสำคัญที่จะมาทำหน้าที่อุดช่องโหว่ของปัญหาที่ได้กล่าวมาข้างต้น เพียงแค่เปิดแอปพลิเคชันและกดปุ่มเช็คเอาท์ในรายการร้านค้าที่ได้เข้าไปใช้บริการทั้งหมดก็เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็ตาม แต่ถ้าหากนึกขึ้นได้แล้วว่าลืมที่ใดเป็นไปบ้างก็ควรที่จะเข้าไปเช็คเอาท์ทันที ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ของตนเองและส่วนรวมด้วย เพราะระบบจะไม่สามารถทำงานอย่างสมบูรณ์แบบได้หากมีเพียงแค่ยอดลงทะเบียนเช็คอินเข้าใช้ แค่อย่างเดียว
มากว่าการเข้าถึงคือการพัฒนาที่จะทำให้ไทยชนะ
อย่างไรก็ตามการกลับมาครั้งนี้ของไทยชนะนั้นอาจจะไม่ใช่เพียงแต่ในเรื่องการเข้ามาไขข้อสงสัยและเพิ่มมั่นใจกับผู้ใช้งานแต่เพียงอย่างเดียว เพราะทางไทยชนะเองได้เพิ่มฟังก์ชันประเมินร้านค้าและกิจการเข้ามาด้วย ซึ่งการที่ได้รับนำความคิดเห็นและข้อติเตียนต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้นนั้นจึงเท่ากับว่าเป็นตัวการเร่งชั้นดีที่จะพาตัวระบบพัฒนาเข้าสู่ทางออกได้รวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าการหาทางออกจากเพียงฝ่ายเดียว
ดังนั้นการที่ทุกคนร่วมมือร่วมใจกันและทำหน้าที่ส่วนของตนเองอย่างเต็มที่แม้ว่าจะให้คำตอบไม่ได้ว่าวิกฤตครั้งนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อใดแต่อย่างน้อยก็สามารถให้คำตอบได้ว่าการผ่อนปรนหรือคลายล็อกครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเดินหน้าฟื้นฟูกลับเข้าสู่ระบบอีกครั้งสำหรับพวกเราชาวไทยชนะ