การมีเป้าหมายทำให้เราได้รู้ว่าเราจะมุ่งมั่นไปยังทิศทางไหนกันแน่ มันทำให้เรารู้ว่าเราตื่นขึ้นมา เราจะทำอะไร เพื่ออะไร และผลนั้นมันจะเกิดขึ้นกับเราเช่นไร

การมีทัศนคติที่ดีต่อตัวเอง ก็เป็น “หัวใจของความสำเร็จ” เช่นกัน การมีความคิดที่ดีต่อตัวเอง การเห็นตัวเองมีคุณค่า และทำตัวเองให้มีความสุขอยู่เสมอ มันจะเป็นพลังที่ทำให้จิตใจของเราเข้มแข็ง ไม่หวั่นไหวง่ายต่อสถานการณ์ใด ๆ เพราะเราทุกคนล้วนแต่เจอปัญหาและอุปสรรคเป็นบททดสอบเข้ามาในชีวิตของเราเสมอ แล้วทำให้จิตใจของเราอ่อนแอ ท้อแท้ สิ้นหวังในบางครั้ง จนบางคนถึงกับถอดใจแล้วหยุดชะงักก้าวต่อ หรือไม่ก็ล้มเลิกไปเลย ทำให้ความตั้งใจหรือความฝันของเรานั้นไปไม่ถึงเป้าหมายสักที

ทัศนคติที่ดี หรือเรียกง่าย ๆ ชื่อว่า “การคิดบวก” การคิดบวกทุกสถานการณ์ โลกสวยเต็มไปด้วยจินตนาการที่ดี แต่ไม่ได้หมายความว่าจะให้เราเป็นคนซื่อ ๆ เออไปกับทุกเรื่อง แต่ถ้าทัศนคติที่ดี ก็ต้องตั้งอยู่ในพื้นฐานของเหตุและผล นั่นหมายความว่า ทุก ๆ อุปสรรคและปัญหา ไม่ว่าเล็กน้อยหรือยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ตาม หากเกิดขึ้นกับเราแล้วรู้สึกหงุดหงิด ไม่พอใจ เสียใจ การมีทัศนคติที่ดี จะทำให้เราสามารถรับมือกับสถานการณ์ตรงนี้ได้ ยกตัวอย่างเช่น การที่เรารู้ว่ามีคนนินทาเรา ซึ่งไม่มีใครอยากถูกนินทาอยู่แล้ว แต่ถ้าเราเปลี่ยนวิธีคิดว่า การที่มีคนพูดถึงเราไม่ว่าจะในทางที่ไม่ดี ทั้ง ๆ ที่เราเองรู้ตัวดีว่าไม่ได้เป็นแบบที่เขาพูด แต่ทุกคนบนโลกนี้ไม่มีใครไม่เคยถูกนินทาบ้างล่ะ เพราะคนเหล่านั้นให้เราเป็นคนสำคัญ เราเป็นคนที่น่าสนใจ พวกเขาจึงขีดเส้นใต้มาที่เรา ถ้าคิดแบบนี้แล้วก็ปล่อยวาง การคิดแบบนี้มันช่วยประหยัดเวลาของเรา ที่พอเรากลับมาอยู่กับตัวคนเดียวแล้ว จะได้ไม่ต้องมานั่งนึกถึงคำนินทาวนซ้ำ ๆ กับตัวเองให้ทุกข์ใจอีก หรือแม้แต่ถ้าวันหนึ่งเจ้านายใช้งานเราหนักมากกว่าเพื่อนร่วมงานคนอื่น ปลีกตัวไปไหนก็ไม่ได้ รู้สึกว่าไม่ยุติธรรม ให้เปลี่ยนวิธีคิด เราต้องขอบคุณซะว่าการที่เจ้านายเรียกใช้งานเราบ่อย ๆ นั้น ก็เพราะว่าเห็นเราเป็นคนที่ไว้วางใจได้ และทำงานเก่ง ลองย้อนถามกลับตัวเองดูว่า การที่เราจะมอบหมายงานให้ใครสักคนหนึ่ง เราก็ต้องเลือกใช่ไหมว่าใครเหมาะสมกับงานนี้อแล้วทำออกมาได้ดี

ทัศนคติที่ดีนี้ เป็น “หัวใจของความสำเร็จ” อย่างแท้จริง มันมีผลกับชีวิตประจำวันของเราทุกเรื่องเลย แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างวัน อย่างเช่น รถติด หรือการรอคอยอะไรบางอย่าง ถ้าเรายอมรับและใจเย็นลง มันก็จะเป็นก้าวต่อไปของความสำเร็จได้

การมีอุปนิสัยที่ดี

อุปนิสัยที่ดีเกิดจากทัศนคติที่ดี อย่างที่เรากล่าวไว้ข้างต้น การมีทัศนคติที่ดี มีความคิดบวก คิดดี ก็จะนำมาสู่การกระทำที่ดี เราจะเริ่มรักตัวเองและเห็นคุณค่าตัวเองมากขึ้น เราจะมีเวลาให้ตัวเองมากขึ้น เราจะเริ่มเห็นโอกาสของชีวิตตัวเองมากขึ้น อุปนิสัยที่จะเป็น “หัวใจของความสำเร็จ” คือ มีจุดหมายและเป้าหมายชัดเจน กำหนดสิ่งที่ตัวเองต้องการ ให้ความสำคัญกับมันและผลักดันตัวเองให้ถึงที่สุด นอกจากนี้การมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คน นอกจากจะได้รับมิตรภาพตอบกลับมา ก็อาจจะได้รับโอกาสที่ดีจากผู้อื่นเข้ามาหาเรา และเป็นโอกาสในการพัฒนาตนเอง ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ให้กับตัวเองด้วย

อีกข้อหนึ่งที่สำคัญ คือการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ การพัฒนาตัวเองมีหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกาย คือ การออกกำลังกาย การทานอาหารสุขภาพ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หรือด้านปัญญา คือ การท่องเที่ยวการ พูดคุยกับผู้คน หรือการอ่านหนังสือ เพราะการอ่านหนังสือคือการบริหารสมองอย่างหนึ่ง สุดท้ายซื่อสัตย์และจริงใจต่อเป้าหมาย เราต้องโฟกัสสิ่งนั้นไว้เสมอ และพึ่งพาตัวเองให้มากที่สุด ถ้าเราเอาแต่รอความช่วยเหลือจากคนอื่นอยู่เสมอ เราจะไม่เป็นอิสระ เราจะไม่เป็นตัวของตัวเอง เราต้องหัดพึ่งพาตัวเองและทำอะไรได้ด้วยตัวเอง

การมีทัศนคติและอุปนิสัยที่ดี 2 สิ่งนี้ คือ “หัวใจของความสำเร็จ” เป็นแนวทางที่ง่าย ๆ แค่เปลี่ยนวิธีคิด เราไม่จำเป็นต้องไล่ล่าความสำเร็จแบบผิดวิธี แต่ถ้าเรามี 2 สิ่งนี้ ความสำเร็จจะขยับเข้ามาใกล้เราเอง และถ้าถามว่าความสำเร็จหน้าตาเป็นยังไง ก็คือตอนที่เรายิ้มอย่างมีความสุขนั่นเอง

Recommended Posts

Leave a Comment