สำหรับคอซีรีส์อย่างพวกเราคงจะไม่รู้จัก House of the dragon ที่เปิดมาแค่ซีซั่นเดียวก็ได้รับคำสรรเสริญจากผู้ชมไปอย่างล้นหลาม ซีรีส์เรื่องนี้มีดีอย่างไร ทำไมถึงครองใจแฟนซีรีส์ที่อาจเป็นแฟนคลับหน้าใหม่และแฟนจากหนังสือต้นฉบับที่เป็นแฟนคลับหน้าเก่าอยู่แล้ว มาติดตามกันได้ที่นี่เลย

ภาคแยกของซีรีส์อภิมหากาพย์ดัง Games of Thrones และการโชว์ตัวของมังกรมากมาย

เชื่อว่าแทบทุกคนน่าจะรู้จักซีรีส์เรื่อง Games of Thornes ซึ่งถูกดัดแปลงจากนิยายชุดเรื่อง A song of ice and fire มาแล้ว ซึ่งคุณจอร์จ อาร์. อาร์. มาร์ติน ที่เป็นผู้แต่งได้วางเนื้อหาที่ครอบคลุมแทบจะสมบูรณ์แบบ เหมือนกับมีโลกสสมมติอีกใบที่คนอ่านเหมือนถูกดูดเข้าไปในเรื่อง โดยทางซีรีส์ House of the dragon ก็มาจากนิยายส่วนเสริมที่ชื่อว่า Fire & Blood เล่าถึงสมัยเหตุการณ์ศึกมังกรเริงระบำ ที่อยู่ในช่วงยุคทองของตระกูลผู้ขี่มังกรทาร์แกเรียนเป็นผู้ปกครอง 7 ราชอาณาจักรอยู่ มีปัญหาเรื่องผู้สืบทอดบัลลังก์เกิดความไม่ชัดเจนกับสองชุดความคิดในโลกที่ระบบปิตาธิปไตยครองเมือง ลูกสาวคนโตซึ่งเกิดจากภรรยาคนแรกของกษัตริย์ถูกเอาไปเล่นเกมการเมืองโดยการถูกแต่งตั้งเป็นรัชทายาทหญิงคนแรกเพื่อสกัดกั้นการอ้างสิทธิ์ของน้องชายพระราชาที่ถูกคนในราชสำนักไม่ชอบเพราะมีนิสัยโหดร้าย

เรื่องนี้จะไม่เกิดปัญหาใด ๆ หากพระราชาไม่เลือกที่จะแต่งงานใหม่และดันมีลูกชายกับภรรยาใหม่ที่เคยเป็นเพื่อนสนิทของลูกสาวรัชทายาท ดราม่าเกิดขึ้นจากการเรื่องการอ้างสิทธิ์ของลูกชายคนโตที่มีผู้สนับสนุนในชุดความคิด “สมบัติของพ่อควรสืบทอดให้กับลูกชายคนโตเท่านั้น” กับฝ่ายที่สนับสนุนลูกสาวผู้เป็นถูกราชาแต่งตั้งรัชทายาทอย่างเป็นทางการผ่านคำสัตย์สาบาน การดำเนินเรื่องเป็นไปอย่างเข้มข้นในเชิงการเมืองและจิตวิทยา ตัวละครมีมิติและมีความเทา ๆ เหมือนกันทุกตัว ต่างฝ่ายต่างเชื่อว่าสิทธิ์ที่จะได้ครองบัลลังก์ของตนเองนั้นถูกต้องแล้ว ความบ้าคลั่งจึงเกิดขึ้นและยิ่งบ้าไปกว่านั้นเมื่อทั้งสองฝ่ายมีมังกรศึกเป็นของตัวเอง

จะเห็นได้ว่าในซีรีส์ภาคหลักตัวละครอย่างแดเนริสที่มีมังกรอยู่ อีกทั้งยังไม่โตเต็มวัยอีกต่างหาก สามารถพิชิตเมืองได้แทบจะทุกเมืองที่นางไป แต่ในซีรีส์ House of the dragon นั้นมีมังกรโผล่มามากกว่าสิบตัวและบางตัวก็โตเต็มที่สำหรับออกรบแล้ว จินตนาการว่ามังกรพวกนั้นหันมาฆ่ากันเองซึ่งเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ในเนื้อเรื่องนิยายชุดนี้ที่มังกรของทาร์แกเรียนสู้กันเอง เมื่อรวมกับชื่อเสียงเก่าที่ซีรีส์ภาคหลักเคยทำไว้ก็เพียงพอสำหรับการที่จะให้แฟนซีรีส์จากภาคหลักสนใจที่จะดูซีรีส์เรื่องนี้ไม่น้อย

การเฉลยเหตุการณ์สำคัญในหนังสือและการปรับเปลี่ยนเนื้อหาบางส่วน

หนังสือ Fire & Blood ที่เป็นนิยายต้นฉบับของซีรีส์ House of the dragon นั้นถูกเขียนมาในรูปแบบของบันทึกประวัติศาสตร์ของนักวิชาการในโลกของนิยาย ทำให้หลายเหตุการณ์นั้นดูคลุมเครือ ดูไม่สมกับความเป็นจริง หรือมีการเอนเอียงเขียนใส่ความกับตัวละครต่าง ๆ มากเกินไป และตัวซีรีส์นี้ทำขึ้นมาเหมือนเฉลยเหตุการณ์ที่ดูคลุมเครือว่าแท้จริงแล้วเหตุการณ์มันเป็นอย่างไร เป็นอีกหนึ่งจุดที่ทำให้แฟนหนังสือที่รู้เนื้อเรื่องของเหตุการณ์นี้จากหนังสือนั้นชื่นชอบเป็นอย่างมากเหมือนได้ปลดล็อกข้อสงสัยในหนังสือไปจนหมด และแน่นอนว่าเนื่องจากการที่ซีรีส์เพิ่งดำเนินมาแค่ช่วงแรกของเหตุการณ์มังกรเริงระบำเท่านั้น แฟนหนังสือก็ยังคงต้องติดตามไปอีกนานจนจบซีซั่นที่ 4 เลยเชียวล่ะ

นอกจากที่กล่าวไปข้างต้นแล้วอีกจุดที่ทำให้ผู้เขียนคิดว่าดีคือการปรับบทเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้เนื้อหาในเรื่องนั้นดูมีความสมเหตุสมผลมากกว่าในหนังสือโดยไม่ส่งผลกระทบต่อเส้นเรื่องหลัก จุดนี้ทำเอาแฟนหนังสืออย่างผู้เขียนปรบมือให้เลย เพราะมันทำให้เนื้อเรื่องดูสนุกและมีความเข้มข้นมากไปกว่าเดิมซะอีก โดยส่วนตัวผู้เขียนยังชอบการเฉือนคมกับด้วยคำพูดและจิตวิทยาในซีรีส์ภาคหลักมากกว่า แต่ซีรีส์เรื่องนี้ก็ทำได้ดีเช่นกันและมีส่วนเสริมเป็นฉากแอคชั่นของมังกรที่เห็นไม่บ่อยจากภาคหลัก ก็ทำให้แฟนคลับบ้านทาร์แกเรียนและแฟนคลับซีรีส์จักรวาลนี้ติดตามได้ไม่ยาก

ก่อนจากกันไปทางผู้เขียนขอนิยามเรื่อง House of the dragon ว่าเป็นซีรีส์ที่โชว์ความดราม่าเรื่องความสัมพันธ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพ่อลูก คนรัก พี่น้อง หรือมิตรสหายได้อย่างออกรส ผ่านเส้นเรื่องที่เกี่ยวกับการเมืองเข้มข้นที่ถูกใส่กรอบไว้ในความแฟนตาซีอีกทีละกัน

Recommended Posts

Leave a Comment