Playstation 4 เริ่มวางจำหน่ายในไทยครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2014 โดยราคาตัวเครื่องอย่างเดียวอยู่ที่ 19,990 บาท และตัวเครื่องกับกล้อง Ps camera อยู่ที่ 20,990 บาท และมีการเปิดตัวอีก 2 รุ่นย่อยตามมาในปี 2016 ราคาอาจจะดูแพงแต่เมื่อมาคิดถึงฟีเจอร์ชุมชนออนไลน์ต่าง ๆ ที่เพิ่มเข้ามา พร้อมทั้งการอัพเดทใหม่ที่ดูเข้าใกล้โลกอนาคตมากขึ้นแล้ว ถือว่าคุ้มมากเลยทีเดียว เหมาะมาก ๆ สำหรับที่กำลังมองหาเครื่องเล่นเกมไว้แก้เบื่อหรือคลายเครียด คุณอาจจะได้พบเจอสังคมใหม่ ๆ ด้วยเครื่อง Playstation 4 นี่ก็เป็นได้
ฟีเจอร์น่าสนใจที่เพิ่มเข้ามาใน Playstation 4
1.Playstation Network หรือ PSN เป็นเครือข่ายที่เพิ่มเข้ามาเปรียบเหมือนชุมชนสำหรับคนเล่นเกมคอนโซล ซึ่งแต่ละคนจะมีหน้าโปรไฟล์ของตัวเองเหมือนเฟซบุ๊ก และหน้าโปรไฟล์นั้นจะแสดงสถานะออนไลน์ ออฟไลน์ จนถึงเกมที่เราเล่นอยู่ในขณะนั้น นอกจากแสดงสถานะแล้ว สำหรับนักสะสมยังมีระบบรายการ Trophy ในแต่ละเกมให้เก็บสะสมเป็นความท้าทายเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ แถมเรายังสามารถชวนเพื่อนมาเล่นเกมกับเราได้อีกด้วย
2.Shareplay ระบบใหม่ที่เพิ่มเข้ามาเพื่อให้คุณได้พบมิตรภาพใหม่ ๆ และค้นพบวิธีชนะเกมที่คุณเล่นด้วยวิธีใหม่ ๆ ที่อาจยังไม่เคยรู้แต่เพื่อนคุณรู้ ผ่านทาง Shareplay ระบบจะอนุญาตให้เพื่อนเข้าไปเล่นเกมที่คุณเล่นอยู่ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีเกมที่คุณเล่นก็ตาม โดยระบบ Shareplay นี้จะทำงานผ่านระบบ Network ซึ่งก็คือคุณต้องมีอินเทอร์เน็ตนั่นเอง
3.Playstation store หรือ Ps store เป็นร้านค้าของระบบ Playstation network มีขายทั้ง Game, DLC, Theme และ Wallpaper ต่าง ๆ ซึ่งเกมที่ขายในนี้นั้นราคาพอ ๆ กับ ซื้อแผ่นเลย แต่เมื่อซื้อแล้วไม่ต้องใช้แผ่นในการเล่นเพราะตัวเกมได้ติดตั้งลงไปในเครื่องแล้วเหมือนกับการลง Crack ในคอมนั่นเอง และที่สำคัญเลย ใน Ps store จะมีการเปิดให้ Pre-order เกมทำให้คนที่ซื้อเกมใน Ps store จะได้เล่นก่อนคนที่ซื้อแผ่น
รุ่นย่อยของ Playstation 4 เลือกสรรได้ตามความเหมาะสม
1.Playstation 4 เป็นรุ่นแรกที่เปิดตัวและเป็นรุ่นเริ่มต้นที่วางจำหน่ายในปี 2013 ด้วยราคา 19,990 บาท น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 2.8 kg มีให้เลือกความจุ 2แบบ ทั้ง 500GB และ 1TB จุใจกันเลยทีเดียว รองรับแผ่น Blu-ray ทำให้ราคาแผ่นเกมสูง ตัว CPU ใช้ AMD Jaguar x86-64, 8-core และ GPU คือ AMD Radeon, 1.84 TFLOP พร้อม RAM ขนาด 8GB ระบบ Bluetooth V2.1 แต่ยังไม่แรงเท่า รุ่น Pro ที่ทั้งขนาดใหญ่กว่าและแรงกว่า
2.Playstation 4 Slim น้องเล็กขนาดกะทัดรัดสมชื่อ ที่มาพร้อมน้ำหนักเพียง 2.1 kg เปิดตัวออกมาหลังรุ่นแรกในปี 2016 พร้อม ๆ กับรุ่นโปร มีความจุให้เลือกเหมือนกัน 2 แบบ คือ 500GB และ 1TB สเปค CPU, GPU และ RAM เท่ากับรุ่นพี่ปี 2013 เลย ต่างกันแค่ขนาดกับน้ำหนักของตัวเครื่อง และระบบ Bluetooth V4.0 เพียงแค่นั้น
3.Playstation 4 Pro แม้จะมาที่หลังแต่กลับยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดารุ่นอื่น ๆ ทั้งหมด แต่น่าแปลกใจตรงที่ราคาวางขายดันถูกกว่ารุ่นแรก ซึ่งราคาอยู่ที่ 16,990 บาท มีความจุเดียวคือ 1TB บางคนที่ซื้อรุ่นแรกไปอาจจะมีหลังหักหรือไม่ก็ขายทิ้งเพื่อมาซื้อรุ่นโปร โดยเจ้าตัวนี้มาพร้อม CPU : AMD Jaguar x86-64, 8-core และ GPU : AMD Radeon, 4.20 TFLOP พร้อมกับ RAM 8GB ทำให้การประมวลนั้นรวดเร็วกว่า 2 รุ่นที่ออกมาก่อน เรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่พัฒนามาแล้ว แถมยังประมวลผลได้ถึงระดับ 4K แต่ก็ต้องแลกมาด้วยน้ำหนักที่มากกว่ารุ่นอื่น ๆ โดยน้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 3.3 kg
อย่างที่ได้มีการเปรียบเทียบสเปคและราคารุ่นต่าง ๆ ของ Playstation 4 ไปในข้างต้นแล้ว สำหรับคนที่งบน้อยแต่อยากมีไว้ในครอบครองแนะนำรุ่น Slim น้องเล็ก แต่ถ้าอยากได้ประสบการณ์แบบ 4K ภาพสวย ประมวลผลเร็ว แนะนำให้อัพเกรดไปซื้อรุ่นโปรพี่ยักษ์เลย แต่ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหน ราคาแผ่นและเกมก็ยังราคาเท่ากัน และใช้ Joystick ตัวเดียวกัน คือ Dualshock 4