สิ่งที่หลาย ๆ คนกำลังพบเจอและหนีไม่พ้นตั้งแต่ต้นปี 2022 คือปัญหาโควิด และดูเหมือนว่าเชื้อร้ายนี้จะแพร่ระบาดไปอย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ดีการติดโควิดในต้นปี 2022 นั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะเมื่อตรวจพบเชื้อเพียงแค่ไปพักฟื้นที่โรงพยาบาลและรักษาตัวก็ดีขึ้น แต่คนที่ติดโควิดแต่เตียงเต็มล่ะจะทำยังไงดี? เรื่องนี้ดูน่ากังวลใจ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่รักษาไม่ได้หรือใช้ชีวิตอยู่ในสังคมไม่ได้ขนาดนั้น
การติดโควิดในกรณีที่อาการยังไม่รุนแรงมากนั้นสามารถดูแลตัวเองอย่างง่ายได้ที่บ้าน โดยไม่จำเป็นต้องใช้เตียงของทางโรงพยาบาลเลยด้วยซ้ำ เพราะในความจริงแล้วผู้ที่ยังไม่เคยตรวจพบเชื้อหรือยังไม่ติดโควิดนั้นเรียกได้ว่ามีเพียงส่วนน้อยมาก บ้างก็ว่าไม่ตรวจ = ไม่ติด หมายความว่าคนไทยหรือแม้แต่คนทั่วไปในโลกก็อาจจะมีเชื้อโควิดอยู่แล้วนั่นเอง ซึ่งตั้งแต่ปี 2019 จนถึงปี 2022 นี้มีผู้ที่ติดเชื้อและหายดีมาแบ่งปันประสบการณ์กันเป็นจำนวนมากขึ้น จึงไม่มีอะไรที่ต้องเป็นกังวลจนเกินไป
ขั้นตอนเบื้องต้นเมื่อประสบปัญหาติดโควิดแต่เตียงเต็ม
1.ทำใจให้สงบ อย่าเพิ่งวิตกกังวลเมื่อตรวจ ATK แล้วขึ้น 2 ขีด ให้แยกตัวออกจากคนในบ้านเพื่อกักตัวเองอยู่ในห้องใดห้องหนึ่ง ยิ่งเป็นห้องที่มีอากาศถ่ายเทหรือระบายลมได้จะดีมาก
2.โทรแจ้งที่เบอร์ 1330, 1668 และ 1669 หากไม่มีการรับสายให้ลองค้นหาเบอร์โทรสายด่วนโควิดในเขตพื้นที่นั้น ๆ จะได้รับการตอบกลับที่ไวมากกว่า กรณีที่ติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ผู้ตรวจพบเชื้อจะได้รับการลงทะเบียน และภายใน 2-3 วันจะมียารักษาและของใช้ที่จำเป็นของศูนย์พยาบาลส่งมาให้
3.หากติดโควิดแต่เตียงเต็มและมีสมาชิกคนอื่น ๆ ในบ้านนอกจากผู้ตรวจพบเชื้ออยู่ด้วย ให้ดูแลตัวเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัยทุกวัน หมั่นล้างมือเป็นประจำ และเปลี่ยนน้ำยาถูพื้นธรรมดาเป็นน้ำผสมเดทตอลเพื่อทำความสะอาดทุก ๆ ส่วนของบ้าน อย่ากระวนกระวายจนวิตกหดหู่ ให้ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป และตรวจ ATK อีกครั้งทุก ๆ วันที่ 3, 5, 7 หลังจากพบผู้ติดเชื้ออยู่ในบ้าน เพราะว่าเชื้ออาจจะยังไม่ถึงระยะฟักตัว การตรวจดูผลในวันแรก ๆ จึงทำให้ยังไม่พบผลใด ๆ หากสมาชิกในบ้านติดโควิดก็ให้ทำตามขั้นตอนเบื้องต้นในข้อแรก
วิธีการดูแลตัวเองที่บ้านเมื่อติดโควิดแต่เตียงเต็ม
1.รับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ ในปริมาณที่พอเหมาะ เน้นกินอาหารจำพวกต้มยำหรืออาหารที่มีสมุนไพรเยอะ ๆ จะมีส่วนช่วยทำให้อาการดีมากขึ้น แต่ก็ไม่ควรกินอาหารรสจัดจ้านทุก ๆ มื้อ
2.เลี่ยงของมันของทอดหรือของหนัก ๆ ในช่วง 14 วันของการกักตัว
3.ดื่มน้ำขิงอุ่น ๆ หรือร้อน ๆ แบบไม่ผสมน้ำตาลเป็นประจำ จะช่วยบรรเทาอาการมีเสมหะ ลดการสะสมเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ เนื่องจากผู้ติดเชื้อจะไอและมีปัญหาเรื่องของทางเดินหายใจตามมา จึงควรป้องกันไว้ก่อนจะมีอาการหนักขึ้น
4.ดื่มน้ำเปล่าอุ่น ๆ เสมอ เนื่องจากผู้ติดเชื้อบางรายจะมีอาการเบื่ออาหาร ทำให้กินหรือดื่มไม่ค่อยได้ หากดื่มน้ำเปล่าน้อยจะทำให้ร่างกายมีสภาวะขาดน้ำเพิ่ม ส่งผลให้อ่อนเพลียหรือปวดหัวร่วมด้วยได้ จึงควรฝืนดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอในแต่ละวัน แม้ผู้พบเชื้อส่วนใหญ่จะมีอาการปวดหัวหรือเป็นไข้อยู่แล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ควรให้มีอาการจากโรคอื่น ๆ แทรกซ้อน
5.ลดน้ำตาลลง เพราะน้ำตาลทำให้ภูมิต้านทานอ่อนแอลง
6.ออกกำลังเบา ๆ เพราะการออกกำลังกายจะช่วยสร้างภาวะสมดุลของร่างกาย ทำให้นอนหลับสบาย และผ่อนคลายความเครียด ดังนั้น จึงควรขยับเล็กขยับน้อยแม้จะติดโควิดแต่เตียงเต็มก็ไม่ควรนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ที่บ้านเพียงอย่างเดียว
7.หากทางศูนย์พยาบาลที่โทรแจ้งยังไม่ติดต่อหรือส่งยามาให้ที่บ้าน สามารถทานฟ้าทะลายโจรมื้อละ 3 เม็ดทุกวัน เป็นเวลาติดต่อกันไม่เกิน 5 วันก่อนได้ เพื่อช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ (เนื่องจากยาที่ทางศูนย์พยาบาลจะส่งมานั้นมีฟ้าทะลายโจรร่วมด้วย) แต่ก็ไม่ควรกินฟ้าทะลายโจรยาเกิน 5 วัน เพราะจะไม่ช่วยอะไรเพิ่มเติมและยังส่งผลเสียอีกด้วย
8.ยาแก้ไอกับยาอมสำคัญมาก ๆ เพราะผู้ตรวจพบเชื้อโดยส่วนใหญ่จะมีอาการไอ ให้ซื้อตุนไว้เลย
9.ร่าเริงเข้าไว้ เลี่ยงความเครียด เพราะอาจทำให้อาการทรุดลง สามารถดูหนัง อ่านหนังสือ หรือฟังเพลงที่ชอบได้ แต่ต้องพักผ่อนให้เพียงพอด้วยเช่นกัน นอนเร็ว ๆ ตื่นแต่เช้าจะยิ่งช่วยให้ร่างกายปรับระบบและซ่อมแซมตัวเองได้มีประสิทธิภาพขึ้น
10.หากอาการรุนแรงควรโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าเป็นกลุ่มผู้ป่วยสีแดง
11.เมื่อกักตัวครบ 14 วันสามารถลงมาใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่น ๆ ในบ้านหรือไปทำงานได้ แต่ควรใส่หน้ากากอนามัยเป็นประจำและดูแลตัวเองอย่างดีกว่าที่เคย
ในความเป็นจริงแล้วการติดโควิดไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แต่ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรประมาทเลินเล่อ ซึ่งการดูแลตัวเองจากการติดโควิดแต่เตียงเต็มที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นประสบการณ์ตรงจากผู้เขียนที่ดูแลผู้พบเชื้อในบ้านมาแล้วเกือบ 10 ชีวิต
