สร้าง EQ ได้ง่ายๆ จาก 4 พฤติกรรมลูก ที่จะช่วยพัฒนา ทำให้หนูน้อยวัยเตาะแตะ มีพัฒนาการด้าน EQ อย่างสมวัย เป็นการเสริมเกราะป้องกันคุณภาพชีวิตที่ทรงคุณประโยชน์อย่างยั่งยืนเพื่อลูกน้อย กับเคล็ดลับการเลี้ยงลูกในยุคสมัยใหม่ที่สิ่งแวดล้อมมีการปรับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
พัฒนาการของลูก คือสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญ การมีเคล็ดลับการเลี้ยงลูกเพื่อนำมาเป็นตัวช่วยเสริมสร้างการเลี้ยงดู และปูพื้นฐานทางด้านอารมณ์ก่อนเข้าสู่วัยเติบโตต่อ ๆไป ซึ่งนักวิชาการส่วนใหญ่กำหนดช่วงอายุวัยเตาะแตะไว้ อยู่ระหว่าง 1-3 ขวบปี เคล็ดลับการเลี้ยงลูกนั้นมีมากมายที่รังสรรค์ ปั้นแต่งวิธีการ การเรียนรู้จากความรักของบรรดาคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลาย เพื่อหล่อหลอมให้เพียบพร้อมที่สุดสำหรับลูก
4 พฤติกรรม สู่เคล็ดลับการเลี้ยงลูกที่จะช่วยพัฒนา EQ อย่างสมวัย
- พฤติกรรมทางร่างกาย : ช่วงวัยนี้ ลูกจะเริ่มไม่อยู่นิ่ง มักชอบเดิน ชอบปีนป่าย แต่เหล่าคุณพ่อคุณแม่ ต่างพากันกังวลกับการเรียนรู้นี้ของลูกอยู่เสมอ ๆ เพราะเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ ขึ้น แต่ยิ่งพยายามจะหยุดพฤติกรรมเหล่านี้เท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้ลูกรู้สึกเหมือนขัดข้องใจ หงุดหงิด ที่ไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างอิสระ ดังนั้น คุณแม่จึงควรเปลี่ยนจากการห้ามปรามสิ่งเหล่านี้ เป็นการสนับสนุนอย่างถูกวิธี โดยการหาสถานที่อันปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณพื้น หรือบริเวณผนังโดยรอบ ให้มีสัมผัสที่อ่อนนุ่ม และจัดหาเสื้อผ้าให้ลูกสวมใส่ โดยเคลื่อนไหวได้สะดวก และสามารถป้องกันการเกิดบาดแผลต่าง ๆ เบื้องต้นเสียหน่อย อาจจะเป็นกางเกงขายาว ผ้ายืด ๆ เพียงเท่านี้คุณแม่ก็จะได้เคล็ดลับการเลี้ยงลูก ที่ไม่ต้องไปขัดขวางการเรียนรู้ของลูก ที่จะได้สนุกสนานมีความสุขได้ตามต้องการ เมื่อมีความสุขก็จะทำให้ลูกมีพัฒนาการด้าน EQ ที่ดีตามไปด้วย
- พฤติกรรมทางอารมณ์ : อารมณ์ของลูกในวัยเตาะแตะที่พบได้บ่อยที่สุดคือ อารมณ์โกรธ เพราะลูกยังควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้ และชอบที่จะใช้มันเป็นเครื่องมือต่อรองคุณพ่อคุณแม่ หรือคนใกล้ชิด หรือกระทั่งใช้เรียกร้องความสนใจจากคนรอบข้าง ดังนั้นจะต้องค่อย ๆ แก้ไขพฤติกรรมของลูกที่สร้างขึ้นมา ให้ลูกทราบเหตุและผลทีละเรื่องอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเมื่อลูกมีอารมณ์โกรธ ควรที่จะต้องรีบสำรวจอารมณ์ตนเองในขณะนั้นทันที บังคับตนเองให้มีเหตุผลอยู่เหนืออารมณ์เสมอ เพราะหากใช้อารมณ์ในขณะสั่งสอนแล้ว ผลลัพธ์ ที่ได้คือการที่ลูกจะมีพฤติกรรมก้าวร้าว หรือต่อต้าน และจะยิ่งหนักขึ้นเรื่อย ๆ หากไม่ได้รับการแก้ไขโดยเร็ว คุณพ่อคุณแม่ต้องเป็นกระจกเงาสะท้อนพฤติกรรมให้ลูกได้เรียนรู้ เช่น การที่คุณพ่อคุณแม่ใจควบคุมอารมณ์ได้ดี ลูกก็จะทำตามจะเรียนรู้ในการควบคุมอารมณ์ตามไปด้วย หากลูกยังคงมีอารมณ์ต่อเนื่อง ให้พยายามเปลี่ยนเรื่องเพื่อเบี่ยงเบนความรู้สึกของทั้งคู่
- พฤติกรรมทางสังคม : เมื่อลูกเริ่มที่จะเรียนรู้ จากการเข้าไปร่วมเล่นกับเพื่อน ๆ ช่วงวัยเดียวกัน เค้าจะค่อย ๆ เรียนรู้กติกา ระเบียบของกลุ่ม คุณพ่อคุณแม่ควรที่จะสนับสนุนสอนให้ลูกปฏิบัติตามกฎระเบียบของกลุ่ม พร้อมอธิบายเป็นคำพูดหรือประโยคง่าย ๆ ให้ลูกเข้าใจถึงผลที่เกิดขึ้นเมื่อลูกไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบกติกา เช่น หากลูกแซงคิวเล่น เมื่อมีคนอื่นมาทำบ้างลูกชอบหรือไม่ เป็นต้น ต่อไปลูกก็จะเรียนรู้เองว่าในแต่ละกลุ่มสังคมที่ลูกเข้าร่วมควรต้องปฏิบัติตัวอย่างไร
- พฤติกรรมทางสติปัญญา : การที่ลูกเติบโตขึ้น สมองจะมีการพัฒนาและจดจำได้ดีมากในช่วงนี้ เรียนรู้เรื่องที่ซับซ้อนได้มากขึ้น ดังนั้นการใช้เคล็ดลับการเลี้ยงลูกในช่วงนี้จึงเป็นโอกาสเหมาะ ที่จะสอนให้เรียนรู้ถึงความถูกผิด โดยคุณพ่อคุณแม่อาจใช้การสอนผ่านทางการเล่านิทาน คำศัพท์ หรือเหตุการณ์ง่าย ๆ ซึ่งลูกจะรู้สึกชื่นชอบ เพลิดเพลินและถูกเรียนรู้พฤติกรรมต่าง ๆ ไปกับเนื้อหาในนิทาน ซึ่งเค้าจะจดจำเป็นภาพจินตนาการได้เป็นอย่างดีเลย
ประโยชน์ของ EQ จากเคล็ดลับการเลี้ยงลูก
- EQ ช่วยส่งเสริมด้านบุคลิกภาพ การมีบุคลิกภาพที่ดี ก็เสริมสร้างความมั่นใจในตัวเองของลูก เมื่อได้รับการยอมรับจากบุคคลรอบข้างมากเท่าไหร่ ยิ่งเพิ่มความมั่นใจได้มากยิ่งขึ้น และได้รับความร่วมมือจากคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี
- EQ ช่วยส่งเสริมด้านอารมณ์ ทำให้สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้อย่างถูกต้องเหมาะสม รู้จักกาลเทศะ เข้าใจความรู้สึกของบุคคลรอบข้างได้
- EQ ช่วยสนับสนุน ให้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีแรงจูงใจที่ดี มีความคิดเชิงบวก ทำให้ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณพ่อคุณแม่ ควรจะทำการปลูกฝังสั่งสอนลูกด้วยวิธีการซ้ำ ๆ อย่างต่อเนื่อง จากการค่อย ๆ เรียนรู้พฤติกรรมแต่ละด้านของลูก แล้วค่อยปรับจูนกันไป ซึ่งเคล็ดลับการเลี้ยงลูกที่กล่าวมาแล้ว ยังเป็นการช่วยเสริมสร้างสัมผัสรัก และกระชับความเข้าใจต่อกันระหว่างทุกคนในครอบครัวอีกด้วย