เสน่ห์ของ “ แคคตัส ” ต้นไม้ที่มีแต่หนาม ทำไมผู้คนถึงตกหลุมรัก?

แคคตัส หรือกระบองเพชร เป็นต้นไม้ที่เริ่มเป็นกระแสมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ถึงแม้ปัจจุบันจะมีต้นไม้หลากหลายชนิดที่เป็นกระแสขึ้นมาใหม่ มีการเล่นราคาที่สูงมากเช่น ต้นไม้ตระกูลด่าง หรือบอนสี เป็นต้น แต่กระแสของแคคตัสก็ไม่เคยหายไป และครองใจคนรักการเลี้ยงต้นไม้มาเสมอ ทั้งยังมีการพัฒนาสายพันธุ์และราคาที่สูงขึ้นอีกด้วย

จุดเด่นของแคคตัสที่จะทำให้คุณตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้น

1.มีมากกว่า 2,000 สายพันธุ์

แต่ละสายพันธุ์มีรูปร่างที่โดดเด่น มีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป เช่น แมมมิลลาเรีย พลูโมซา หรือเรียกว่า “แมมขนนก” สายพันธุ์นี้เป็นต้นกระบองเพชร ที่ไม่มีหนาม เพราะมีขนนุ่ม ๆ สีขาวปกคลุมทั้งต้น ดูน่ารักและน่าทะนุถนอม แถมออกดอกแล้วมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ อีกด้วย เรียกได้ว่าถ้าใครหลงเข้ามาในวงการกระบองเพชรแล้ว จะออกจากวงการนี้ไม่ได้ เพราะมีสายพันธุ์ให้ลองเลี้ยงเยอะมาก และต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา

2.รักษาบาดแผลของตัวเองได้

หากเราเผลอทำให้แคคตัสมีบาดแผล หรือโดนสัตว์อื่น ๆ กัดกินเนื้อไป บาดแผลและรอยขีดข่วนจะหายไปได้เอง เพราะต้นกระบองเพชรสามารถสร้างเนื้อเยื่อไปแทนที่ส่วนที่ขาดหายไปได้ เป็นคุณสมบัติพิเศษที่ทำให้คนเลี้ยงคลายกังวลเรื่องต้องมานั่งดูแล หรือกลัวว่ากระบองเพชรจะตายเพราะมีบาดแผลไปได้เลย

3.อายุยืนกว่าร้อยปี

กระบองเพชรมีถิ่นกำเนิดจากทะเลทราย มีคุณสมบัติทนร้อน เหมาะกับการเลี้ยงในประเทศไทยมาก ๆ โดยประวัติแล้วต้นกระบองเพชรป่าสามารถอยู่ได้ถึง 100 ปี ใครที่เลี้ยงกระบองเพชรอย่างถูกวิธีจะเห็นว่าสามารถอยู่ได้หลายปี และเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย

4.ขายได้กำไร ราคาสูง

อย่างที่ทราบว่ากระบองเพชรเป็นต้นไม้ที่เลี้ยงง่ายและทนอากาศร้อน สามารถนำมาขยายพันธุ์และขายต่อได้ ถือเป็นการลงทุนที่ดีเลยทีเดียว ปัจจุบันเองในไทยก็มีหลายสายพันธุ์ที่นิยมกันมาก และมีราคาสูงด้วย ตัวอย่างเช่น Astrophytum ออกดอกสวย มีการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีดอกเป็นรูปตัววีซ้อนเรียงกัน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก การประมูลสายพันธุ์นี้ ที่มีรูปทรงที่หายาก เคยมีการให้ราคาสูงถึงหลักแสนก็มีมาแล้ว

แนะนำสายพันธุ์แคคตัส เลี้ยงขายได้ ราคาไม่ตก กระแสไม่ตก

1.สายพันธุ์ Gymnocalycium หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “ยิมโนด่าง” เสน่ห์ของสายพันธุ์นี้คือการ “ได้ลุ้น” เพราะเป็นสายพันธุ์ที่ต้องผสมสีให้ได้สีด่างตามต้องการ ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์จนได้สีด่างสวย ดอกใหญ่และบานอยู่ได้หลายวัน ลำต้นมีสีสันสดใส แต่ละต้นจะมีสีไม่ซ้ำกัน เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ และนิยมนำมาต่อบนกระบองเพชรสายพันธุ์ปราสาทนางฟ้า จะได้รูปทรงที่สวยงามมาก ๆ ราคาของแคคตัสยิมโนด่างขึ้นอยู่กับ ขนาด ความด่างของสี และความหมายทางจิตใจ หากผสมสีและมีรูปร่างตามมาตรฐานของนักสะสม ราคาพุ่งตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักแสนได้เลย

2.สายพันธุ์ Uebelmannia หรือเรียกว่า “แผงคอม้า” เพราะมีลักษณะของหนามรอบ ๆ ต้น เป็นรูปทรงคล้ายกับแผงคอของม้า มีถิ่นกำเนิดจากประเทศบราซิล ต้นเล็กแบบเริ่มต้นเลี้ยง มีราคาเริ่มที่หลักพันบาท เลี้ยงไม่ยาก แต่โตช้า สามารถผสมสีให้ด่างได้เหมือนกับยิมโนด่าง สายพันธุ์นี้มีหลากหลายสี เช่น สีเขียว สีดำ สีม่วง ถือว่าเป็นพันธุ์หายากในไทยเลยก็ว่าได้ ไม่ได้หาซื้อง่าย ๆ ในร้านต้นไม้ ส่วนใหญ่ต้องสั่งผ่านคนเลี้ยงเพื่อขายโดยเฉพาะ

ยังมีแคคตัสอีกหลายสายพันธุ์ที่รอให้คุณสัมผัสและตกหลุมรักมัน บอกได้เลยว่าเป็นต้นไม้ที่มีลูกเล่น มีการเจริญเติบโตที่แปลกใหม่ รูปลักษณ์สวยงามแตกต่างกันทุกสายพันธุ์ จะเลี้ยงเพื่อขายทำกำไร เลี้ยงเพื่อตกแต่งบ้านและสวน หรือให้เป็นของขวัญสุดน่ารักให้กับคนพิเศษก็ได้