วัคซีนต้านโควิด ป้องกันได้จริงหรือ

วัคซีนต้านโควิด เริ่มต้นทดลองฉีดในอาสาสมัครในสหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนธันวาคม 2020 ที่ผ่านมา โดยกลุ่มอาสาสมัครกลุ่มแรกที่ได้รับการทดลองฉีดคือบุคลากรทางการแพทย์ ผลการทดลองพบว่า หนึ่งในพยาบาลผู้ได้รับวัคซีน ติดไวรัสโควิด-19 หลังจากได้รับวัคซีนเพียงหนึ่งสัปดาห์ หลักการทำงานของวัคซีนคือต้องได้รับการฉีดทั้งหมด 2 ครั้ง โดยมีการเว้นระยะเพื่อให้ร่างกายผลิตภูมิคุ้มกัน หากผู้ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดได้รับเชื้อก่อนการฉีดหรือระหว่างการฉีด อาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เนื่องจากการฉีดวัคซีนต้านโควิดไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ทันที ร่างกายต้องใช้เวลาในการผลิตภูมิคุ้มกัน จากผลการทดลองพบว่าผู้ได้รับวัคซีนต้านโควิด ยังคงมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19

ทำไมวัคซีนต้านโควิดถึงไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100%

ผลการทดลองการฉีดวัคซีนต้านโควิดในสหรัฐอเมริกาพบว่า วัคซีนไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100% โดยมีกลุ่มผู้ได้รับวัคซีนที่มีผลการตรวจพบเชื้อ 5% โดยกลุ่มดังกล่าวได้รับการฉีดวัคซีนครบเรียบร้อย ศูนย์การป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐ (CDC) แจ้งว่า วัคซีนต้านโควิดได้ผลดีต่อผู้ติดเชื้อที่มีอาการ ข้อเท็จจริงคือ ผู้ติดเชื้อโควิดกว่า 40% ไม่แสดงอาการ อย่างไรก็ตามวัคซีนต้านโควิดมีประสิทธิภาพได้ผลมากถึง 95% การพัฒนาวัคซีนจำเป็นต้องใช้เวลาในการทดลองฉีดเพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน อันนำไปสู่ขั้นตอนการศึกษาระบบภูมิคุ้มกันและพัฒนาวัคซีนให้มีประสิทธิภาพในการรักษาสูงสุดต่อไป

วัคซีนต้านโควิดสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ตลอดชีวิตหรือไม่

ศูนย์การป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐ (CDC) แจ้งว่า ผลการทดลองวัคซีนต้านโควิดยังต้องใช้เวลาอีก 2-3 เดือน ในการศึกษาผลกระทบของการฉีดวัคซีน เนื่องจากระยะเวลาที่เริ่มทดลองฉีดในมนุษย์นั้นเริ่มต้นเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ดังนั้นช่วงนี้จึงจำเป็นต้องเก็บข้อมูลอาสาสมัครที่ได้รับการทดลองฉีด เพื่อศึกษาผลกระทบหลังจากการฉีดวัคซีน เนื่องจากการฉีดวัคซีนอาจทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้เพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น  จึงทำให้ต้องมีการฉีดวัคซีนซ้ำอาจจะทุก ๆ 10 ปี หรือในบางคนอาจจะต้องได้รับวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันบ่อยกว่านั้น ทั้งนี้การทดลองการฉีดวัคซีนยังไม่สามารถยืนยันความถี่ของการฉีดวัคซีนโควิดได้

การฉีดวัคซีนต้านโควิดแม้จะลดอัตราเสี่ยงในการติดเชื้อ แต่ยังมีอัตราเสี่ยงต่อการเป็นพาหะในการแพร่เชื้อไปสู่บุคคลอื่นได้ เพราะฉะนั้นแล้วการฉีดวัคซีนต้านโควิด เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งที่อาจยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโรค สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อ การสวมหน้ากากอนามัย ไม่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง งดการเดินทาง การล้างมือบ่อย ๆ การพักผ่อน การออกกำลังกาย และรับประทานอาหารให้ครบหมวดหมู่ยังเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง การมีจิตสาธารณะในการสำรวจตัวเองหากมีอาการเข้าข่ายการติดเชื้อ ควรกักบริเวณตัวเองเพื่อดูอาการอย่างน้อย 2 สัปดาห์ หากไม่ดีขึ้นควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจคัดกรองต่อไป