บางทีช่วงจังหวะชีวิตมันระบายออกมาทางคำพูดได้ยาก คนส่วนใหญ่เลยเลือกที่จะเก็บมันไว้ในใจ ใช้ชีวิตเพื่อปัจจัยในชีวิตเป็นหลักจนลืมความรู้สึกลึก ๆ ภายในใจตัวเองว่าเราต้องการอะไรในชีวิต เหนื่อยไหมที่ต้องเก็บมันไว้แล้วบอกใครไม่ได้ เขินอายที่จะอ่อนแอเพราะสังคมรอบข้างกดดันให้เราต้องเข้มแข็ง จนมีคำที่ว่า “อ่อนแอก็แพ้ไป” มันทำให้ใจคนพูดกับคนได้ยินฮึกเหิมหรือหดหู่กว่าเดิมกัน ถ้าเราปรับมุมความคิดมาสนใจกับความรู้สึกของตัวเองบ้าง ลองถามตัวเองว่าตอนนี้ความสุขของเราคืออะไร อะไรที่ทำให้เราอยากใช้ชีวิตต่อไป ลองให้รางวัลความสุขของตัวเราคนนี้ ลองให้เขาได้ทำในสิ่งที่ชอบสักหน่อยหลังจากที่สนองความต้องการของคนหมู่มากเกือบเต็มวัน
อ่อนแอแล้วแพ้ไปมีที่ไหน
ใครบอกว่าคนอ่อนแอเขาต้องแพ้ในเมื่อที่ผ่านมาเขาสู้มาเต็มที่ อดทนอย่างถึงที่สุดแล้วต่างหาก ไม่ผิดเลยที่จะเจ็บปวด ไม่ผิดเลยที่จะทุกข์ ไม่ผิดเลยที่จะอ่อนแอ มันเป็นความรู้สึกที่แท้จริงของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ระบายออกทางภาษากายหรือคราบน้ำตาบ้างถ้าจิตใต้สำนึกเราอยากจะทำ เดินออกกำลังกายที่สวนสาธารณะใกล้ ๆ บ้าน หาของอร่อย ๆ กินยามค่ำคืน ได้คุยกับใครสักคนที่ทำให้รู้สึกดี ได้ปลดปล่อยเรื่องภายในใจไปบ้าง เบาขึ้นเยอะเลยว่าไหม แบกมาหนักอึ้งทั้งวันแล้วก็ทิ้งมันไว้ที่ทำงานและเดินออกไปปลดปล่อยให้ผ่อนคลาย วันพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่
ยิ้มหน่อยคนเก่ง ก้าวผ่านความอ่อนแอได้บ้างแล้วนะ
ความอ่อนแอไม่ได้หายไปไหนมันก็ยังวนเวียนอยู่ในความรู้สึกเราเรื่อย ๆ ทุกวัน อยู่ที่ว่าวันไหนเราจะหยิบยกมันมาปัดฝุ่นเคลียร์ความรู้สึกตัวเองสักหน่อย อย่าลืมว่าความรู้สึกอ่อนแอของเราไม่ใช่เรื่องผิด เราซื่อตรงกับจิตใจตัวเองต่างหากคือความถูกต้อง นับจากนี้และวันต่อ ๆ ไปเรายังต้องพบเจอความสุขและความเสียใจอีกมากมาย แต่วันนี้เราได้ผ่านมาพบกันมาเคลียร์ใจ เคลียร์ความรู้สึกกัน อย่างน้อยเราก็ได้เข้าใจตัวเองมากขึ้น การลงทุนมีความเสี่ยงแต่ลงทุนกับใจตัวเองไม่มีคำว่าผิดหวังแน่นอน ซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเองแล้วเราจะพบเจอแต่ความสบายใจ
ในเรื่องของความรู้สึกอย่ากลัวและเขินอายที่จะเปิดเผยมันออกมา มองไปข้างหน้าแล้วก้าวข้ามผ่านทิ้งความเหนื่อยล้าไว้เบื้องหลัง ยิ้มรับฟ้าหลังฝนวันใหม่ วินาทีที่ลืมตาตื่นขึ้นมาจงขอบคุณตัวเองที่ยังมีลมหายใจ ยังมีชีวิตให้เราได้เริ่มต้นใหม่อยู่เสมอ ใครบอกว่าคุณไม่มีใคร ความเป็นจริงแล้วคุณยังเหลือตัวเองอยู่ในทุก ๆ วันทุกลมหายใจ
