นับเป็นเรื่องท้าทายของพ่อแม่ในยุค Millenniums ผู้เลี้ยงลูกในเมืองอันคับคั่งและมีพื้นที่จำกัด โดยเฉพาะเมื่อต้องรับมือกับการเรียนออนไลน์ที่บ้านของลูก ๆ ในช่วงที่มีการระบาดของโรค Covid-19 พ่อแม่ควรมีส่วนในการจัดบ้านให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ของเด็ก เพื่อให้เด็ก ๆ มีสมาธิ สามารถจดจ่อกับบทเรียน สอดคล้องกับพัฒนาการของเด็ก และใช้พื้นที่ในบ้านร่วมกันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย โดยสิ่งที่ควรคำนึงถึง 2 ประการหลักคือ ลักษณะของพื้นที่ และช่วงเวลาในการใช้พื้นที่
ลักษณะของพื้นที่ในบ้านที่เหมาะกับการเรียนออนไลน์ที่บ้าน
เมื่อบ้านกลายเป็นห้องเรียนสำหรับลูก ๆ ที่เรียนออนไลน์ที่บ้าน ควรจัดให้พื้นที่ส่วนหนึ่งในบ้านเป็นห้องเรียนที่เหมาะสมกับการเรียนของลูก สิ่งพื้นฐานที่คงจะขาดไปไม่ได้คือความสะดวกในการเข้าถึงสัญญาณอินเทอร์เน็ต ก่อนเริ่มเรียนพ่อแม่ควรทดสอบจุดที่สัญญาณมีความเสถียรเสียก่อน นอกจากนั้นบริเวณที่เด็ก ๆ ใช้เรียนและเขียนหนังสือก็ควรมีแสงเข้าถึงอย่างเหมาะสมทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อสายตาของเด็ก
หากลูกเป็นเด็กเล็ก หรือยังไม่เกินวัยประถม พ่อแม่ควรอยู่ไม่ไกลเพื่อให้ความช่วยเหลือ เช่น เมื่อคอมพิวเตอร์หรืออินเทอร์เน็ตมีปัญหา ดังนั้นอาจจะใช้โต๊ะอาหารในห้องครัวเป็นจุดเรียนออนไลน์ หรืออยู่ในบริเวณเปิดโล่งที่พ่อแม่จะสอดส่องได้ขณะทำงานที่บ้านหรือทำงานบ้าน ควรแยกอุปกรณ์การเรียนและสื่อบันเทิงออกจากกันให้เด็ดขาด ไม่ให้อยู่ในบริเวณเดียวกันขณะเด็ก ๆ กำลังเรียน เช่น หากใช้คอมพิวเตอร์ในการเรียนก็ควรอยู่ห่างหรือปิดโทรทัศน์ หากใช้โทรทัศน์ในการเรียนก็ควรนำโทรศัพท์มือถือไปไว้ที่อื่น รวมทั้งของเล่นและสิ่งดึงดูดความสนใจอื่น ๆ
หากลูกเป็นเด็กโต หรือวัยมัธยมขึ้นไป พ่อแม่ควรให้ความเป็นส่วนตัวกับลูก ต้องเชื่อมั่นว่าแม้พ่อแม่จะไม่เห็นแต่ลูกก็ยังตั้งใจเรียนได้ เพราะว่าเขาโตแล้ว พื้นที่ที่ลูกเรียนไม่ควรพลุกพล่าน มีคนเดินเข้าออกตลอดเวลา หรือมีเสียงตะโกนเรียกหากัน จะทำให้เสียสมาธิ หรือไม่ได้ยินเนื้อหาที่เรียนได้ พ่อแม่จะต้องปรับความเคยชินที่มีต่อการใช้พื้นที่ในบ้าน เพื่อกันให้บริเวณนั้นเป็นห้องเรียนของลูกอย่างแท้จริง คือเกิดสิ่งรบกวนให้น้อยที่สุด
ช่วงเวลาในการใช้พื้นที่เพื่อการเรียนออนไลน์ที่บ้าน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบ้านที่มีพื้นที่จำกัดหรือมีสมาชิกหลายคน การแบ่งช่วงเวลาเป็นเรื่องสำคัญมาก หากเป็นเด็กเล็กพ่อแม่ควรมีช่วยร่วมในการบริหารเวลาของลูก ศึกษาตารางเรียนของลูกและกำหนดเวลาในการใช้พื้นที่เพื่อทำการบ้าน พ้นจากช่วงนั้นก็ให้เก็บอุปกรณ์การเรียนต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง การจัดสิ่งแวดล้อมให้บ้านกลับมาเป็นบ้านเมื่อหมดเวลาเรียน มีความสำคัญเท่ากับการจัดบ้านให้เป็นห้องเรียนเมื่อถึงเวลาเรียน เพราะจะช่วยสร้างขอบเขตไม่ให้ลูกเครียดมากเกินไป ซึ่งจะทำให้เหนื่อยหน่ายต่อการเรียนได้ ไม่ควรทำให้ลูกรู้สึกเหมือนเขาเรียนอยู่ตลอดเวลา
หากเป็นเด็กโตพ่อแม่ต้องไว้วางใจในการจัดสรรเวลาของลูก เพียงแต่ให้คำแนะนำในเรื่องเวลาพักผ่อนและไม่นั่งติดโต๊ะนานเกินไปจนมีปัญหาสุขภาพตามมา การเรียนที่ดีต้องมีเวลาเริ่มและเวลาหยุดที่เหมาะสม จะทำให้สามารถเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สมองไม่ล้าจนเกินไป และไม่ตึงเครียดหรือกระทบกับการใช้ชีวิตอย่างปกติสุขตามช่วงวัยมากนัก นอกจากนี้เด็กโตควรเรียนรู้ที่จะมีความรับผิดชอบในการใช้พื้นที่ร่วมกับสมาชิกในบ้านอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน อาจจะให้ลูกเป็นคนจัดบ้านเองตามตารางเรียน โดยยึดตามคติที่ว่า เรียนเป็นเรียน เล่นเป็นเล่น
การจัดการพื้นที่อันมีจำกัดเป็นเรื่องจำเป็นต่อการเรียนออนไลน์ที่บ้าน นอกจากจะทำให้ลูก ๆ เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใกล้เคียงหรือทดแทนการเรียนที่โรงเรียนให้ได้มากที่สุด ยังช่วยให้การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันของสมาชิกในบ้านเป็นไปอย่างปกติสุข ไม่กระทบกระทั่งกัน อันจะส่งผลดีกลับไปที่ประสิทธิภาพในการเรียนของเด็ก ๆ เอง